วิกฤตหลักที่มหาอำนาจอย่างจีนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ไม่ใช่ภัยคุกคามจากภายนอกจากคู่อริอย่างสหรัฐฯ หรือความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ แต่กลับเป็นปัญหาภายในจากเรื่องของ “จำนวนประชากรและอัตราเด็กเกิดใหม่ที่กำลังลดลง” ถึงขนาดที่ว่าตัวเลขจำนวนประชากรถูกอินเดียแซงไปได้ในปีที่แล้ว
ล่าสุด สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานจำนวนประชากรของจีนในปี 2023 พบว่าลดลงติดต่อกันเป็นปีที่ 2 โดยลดลงไป 2.08 ล้านคนหรือ 0.15% เหลือประชากรจีน 1.409 พันล้านคน
ความขัดแย้งขยายไปทั่วคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง! อิหร่านโจมตีฐานทัพกลุ่มติดอาวุธซุนนีในปากีสถาน
ยูเครนร้องชาติตะวันตกต่อต้านรัสเซีย ด้านปูตินเตือนยูเครนอย่าดื้อดึง
นักวิทย์จีนประสบความสำเร็จ โคลนลิงวอกด้วยเทคนิคใหม่
ที่สำคัญคือ ตัวเลขนี้ลดลงมากกว่าปีก่อนหน้านั้นด้วย เพราะปี 2022 ประชากรจีนลดลงไป 850,000 คน ทั้งนี้ การลดลงของประชากรจีนในปี 2022-2023 นั้น ถือเป็นการลดลงคร้งแรกในรอบกว่า 60 ปี นับตั้งแต่ปี 1961 ในช่วงที่เกิดความอดอยากครั้งใหญ่ในสมัย เหมา เจ๋อตุง
เนื่องจากอัตราการเกิดที่ต่ำเป็นประวัติการณ์และการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จำนวนมากเมื่อมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดสิ้นสุดลง เร่งให้เกิดภาวะตกต่ำซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อศักยภาพในการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว
สำหรับสาเหตุที่ตัวเลขประชากรจีนลดลงอย่างมากนี้ ปัจจัยหลักมีอยู่ 2 ประการ คือการระบาดของโควิด-19 และอัตราการเกิดที่ลดลง
จีนเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นประเทศแรกของโลก จนต้องประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดที่กินเวลานานถึง 3 ปีเต็ม จนกระทั่งยกเลิกมาตรการเมื่อเดือน ธ.ค. 2022 ก็ทำให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก
ช่วงที่จีนล็อกดาวน์ถูกมองว่าทำให้ประชาชนมีความต้องการอยากมีลูกน้อยลงหรือไม่อยากมีลูกเลย เพราะโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชาชนอย่างมาก ในขณะที่การเลี้ยงดูบุตรนั้นต้องใช้เงินสูง ทำให้ประชาชนที่ไม่มีความมั่นใจในเศรษฐกิจจีนตัดสินใจที่จะชะลอการมีลูกหรือไม่มีเลย
นอกจากนี้ เรื่องการถูกทางการจีนบีบบังคับหรือเป็นผู้กำหนดชีวิตมากเกินไปก็ส่งผลต่อความต้องการอยากมีลูกของชาวจีนเช่นกัน
ไม่เพียงเท่านั้น เดิมทีการเกิดในประเทศจีนมีแนวโน้มลดลงมานานหลายทศวรรษแล้ว อันเป็นผลจากนโยบายลูกคนเดียวที่บังคับใช้ตั้งแต่ปี 1980-2015 และการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาดังกล่าวก็ส่งผล เพราะการเลี้ยงลูกในเมืองมักมีต้นทุนที่แพงกว่าการเลี้ยงในชนบทหรือต่างจังหวัด
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า ในปี 2022 อัตราการเกิดใหม่ของเด็กจีนลดลงไปถึง 5.7% เหลือ 9.02 ล้านคน และอัตราการเกิดต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 6.39 คนต่อประชากร 1,000 คน ลดลงจาก 6.77 คน
การลดลงของประชากรถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายมากสหรับจีน เพราะส่งผลถึงแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากการมีประชากรลดลงเท่ากับว่า จำนวนแรงงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และจำนวนผู้บริโภคจะน้อยลงตามไปด้วย
ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติประเมินว่า จำนวนประชากรของจีนอาจลดลงไปถึง 109 ล้านคนภายในปี 2050 เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม 3 เท่าจากการคาดการณ์ครั้งก่อน
ในขณะเดียวกัน ต้นทุนการดูแลผู้สูงอายุและสวัสดิการการเกษียณอายุที่เพิ่มขึ้นของจีนทำให้สภาพคล่องทางการเงินของรัฐบาลท้องถิ่นตึงเครียดและเป็นหนี้มากขึ้น
ประชากรจีนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปขณะนี้มีจำนวนถึง 296.97 ล้านคนในปี 2023 หรือประมาณ 21.1% ของประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 280.04 ล้านคนในปี 2022 แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 400 ล้านคนภายในปี 2035 นั่นทำให้สถาบันวิทยาศาสตร์จีนประเมินว่า การเงินของระบบบำนาญจะหมดไปภายในปี 2035
แม้ที่ผ่านมา ทางการจีนทั้งในระดับประเทศและในระดับท้องถิ่นจะพยายามออกนโยบายกระตุ้นให้เกิดการแต่งงานและมีบุตรกันมากขึ้น แต่ก็ดูจะไม่ค่อยเป็นผลนัก จึงเป็นเรื่องที่ต้องรอดูกันไปยาว ๆ ว่า ที่สุดแล้วจีนจะแก้ปัญหานี้อย่างไร หรือพญามังกรจะต้องสิ้นชื่อเพราะไม่สามารถเพิ่มจำนวนประชากรได้
เรียบเรียงจาก Reuters
เปิดสถิติหวยออกงวดวันที่ 17 มกราคม หวยวันครู ย้อนหลัง 15 ปี
วันหยุดกุมภาพันธ์ 2567 เช็กวันหยุดราชการ-วันสำคัญ ตรงกับวันไหนบ้าง
ประกาศฉบับสุดท้าย เตือนภาคเหนือ 4 จังหวัด รับมือพายุฝนฟ้าคะนอง